รีวิวของผู้ชมต่างประเทศเกี่ยวกับซีรีส์วาย “มีสติหน่อยคุณธีร์” Me And Thee (BL)
**Vadie : **Me and Thee (ตอนที่ 1)✨
ฉันเพิ่งดูตอนแรกจบไป และบอกตรง ๆ เลยว่าดีมากกกกก จากตัวอย่างก็ดูมีความน่าสนใจอยู่แล้ว แต่พอตอนได้ดูจริง ๆ ตอนแรกทำได้ดียิ่งกว่าที่คาดไว้เยอะเลย
เนื้อเรื่องเปิดมาก็น่าติดตามแล้ว แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดสำหรับฉันคือ “การแสดง” การแสดงดีมาก แบบดีจริง ๆ ความตลกมันเป็นธรรมชาติสุด ๆ สีหน้าท่าทางทำให้ทุกอย่างสนุกขึ้นไปอีก โดยเฉพาะพีช ส่วนภูวินท์ในเรื่องนี้คือดีมากกก แล้วก็มีคุณธีร์ที่คอยพูดอะไรที่สุดจะเพี้ยนอยู่ตลอด 😹
ส่วนฉากที่ฉันชอบที่สุดตอนนี้คือ “งานภาพ” การกำกับและการถ่ายทำสวยมากกกก ทุกอย่างดูตั้งใจ มีสไตล์ และช่วยยกระดับทั้งเรื่องให้ดูดีขึ้นมาก นี่ยังแค่ตอนแรกเอง ยังมีอะไรให้รอดูอีกเยอะเลย ✨
Sophie : จังหวะคอมเมดี้ยอดเยี่ยม การเล่าเรื่องลื่นไหล และมุกอ้างอิงวัฒนธรรมที่ฉลาดมาก
มีสติหน่อยคุณธีร์ เป็นซีรีส์คอมเมดี้ที่ขับเคลื่อนด้วยบทสนทนา โดยความตลกของเรื่องเกิดขึ้นจาก “สิ่งที่ตัวละครพูด” ล้วน ๆ — และฉันชอบคอมเมดี้ที่มีพื้นฐานจากตัวละครแบบนี้มาก เพราะพวกเขาตลกโดยธรรมชาติจากบุคลิกและวิธีคิดของตัวเอง ไม่ใช่ตลกเพราะถูกยัดมุกแบบฝืน ๆ
ตอนแรกของเรื่องทำหน้าที่เป็นทั้ง แอนตีโรแมนซ์, ล้อเลียนโครงสร้างอำนาจ, และ การวิเคราะห์ตัวละครเชิงจิตวิทยา ทั้งหมดนี้ถูกห่อด้วยภาพลักษณ์ซีรีส์ BL ระดับพรีเมียม และซ้อนด้วยการเสียดสี มาเฟียละครไทย ไปพร้อมกัน
ซีรีส์นี้ทั้งล้อเลียนทรอปละครไทยแบบเบสิก (ความดราม่าเว่อร์ ๆ แฟนมาเฟียขี้หวง ภาษาพูดโอเวอร์ แอ็กชันหรูหราเกินจริง) และในเวลาเดียวกันก็สร้าง “แกนกลางความเปราะบางของตัวละคร” ที่จริงใจและจับต้องได้ซ่อนอยู่ใต้ความเว่อร์ทั้งหลาย
การใช้มุมมองสองแบบ— มุมของพีช ที่นิ่ง เรียล grounded มุมของธีร์ ที่ดราม่าเกินจริงตามสไตล์ละครไทย
ทำให้ตอนนี้ผสมโทนได้อย่างเป็นเอกลักษณ์ ทั้งคอมเมดี้ ดราม่า และอารมณ์จริงใจที่ผสานกันอย่างลงตัว
ปอนด์ นราวิชญ์ เก่งมากในการส่งบทเว่อร์ ๆ ที่ปกติคนพูดจริงคงพูดไม่ออก เขารับบทคุณธีร์ได้แบบเดียวกับที่ จุน มัตสึโมโตะ เล่นเป็น โดเมียวจิ ซึกาสะ — ตัวละครที่ “เชื่อเต็มร้อย” ว่าพฤติกรรมโอเวอร์ของตัวเองเป็นเรื่องปกติ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนกำลังดูชีวิตจริงของตัวละครมากกว่าการแสดง นี่แหละคือวิธีสร้างตัวละครไอคอนิก
ต้องใช้ทักษะสูงมากในการพูดบทที่ใช้ภาษาเป็นทางการสุด ๆ แบบที่คนจริง ๆ ไม่ได้พูดกัน แต่ทำให้มันฟังเป็นธรรมชาติ ไม่ดูโอเวอร์หรือฝืน และปอนด์ทำสิ่งนั้นได้อย่างไร้ที่ติ โดยเฉพาะเรื่อง “การออกเสียงภาษาไทย” ที่ชัดทุกพยางค์
เพราะคุณธีร์เรียนภาษาไทยจากการดูละครไทย การพูดของเขาเลยดูเนี้ยบ เป๊ะ และชัดเจนเหมือนนักแสดงในละคร ซึ่งปอนด์จับจุดนี้ได้ดีมาก ขณะที่คนไทยสมัยนี้ชอบพูดเร็ว หรือกลืนคำ คุณธีร์กลับพูดชัด ถ้อยคำเรียงเป็นระเบียบ แต่สีหน้าไม่ได้แสดงว่ากำลัง “เล่นละคร” เลย — ขนลุกทุกครั้งที่เขาเรียกชื่อเต็มของพีช
โดยเฉพาะฉากที่เขาพูดว่า “พีชชยรัตน์” หน้าบ้านพีช น้ำเสียง สีหน้า และความเงียบหลังประโยคเต็มไปด้วยความหมายแฝง: “ทำไมโดนเขาว่าถึงรู้สึกเจ็บ? ทำไมรู้สึกไม่โอเคที่เขาโกรธ? ทำไมต้องแคร์ความคิดของเขาด้วย? นี่มันความรู้สึกใหม่สำหรับฉัน…”
สำหรับ ภูวินทร์ ฉากหมูกระทะที่พีชกินเนื้อคือฉากที่สวยที่สุดในเชิงการแสดง แม้ฉากดราม่าต่อมาจะเด่นกว่า แต่ตอนที่พีชหลับตากินอาหาร ภูวินทร์ถ่ายทอดความสับสนในใจด้วยไมโคร–เอ็กซ์เพรสชันได้ละเอียดมาก เขาชอบอาหารที่อร่อย แต่ความเว่อร์ของธีร์ก็ขัดกับค่านิยมของเขา
และพี่เอ็กซ์ก็เป็นเหมือน “สารานุกรมเดินได้” ของวงการป๊อปคัลเจอร์ เขารู้จริงทุกเรื่อง
ในการสร้าง Me and Thee เขาดึงอิทธิพลจากเพลง หนัง หนังสือ และละครไทยยุคที่เขาโตมา ผสานให้เข้ากับโครงสร้างซีรีส์อย่างชาญฉลาด รวมกับงานกำกับที่ชัดเจน วิสัยทัศน์เฉียบ และบทดัดแปลงที่แข็งแรง (ฝีมือ VANGVELA) ทำให้ซีรีส์นี้กลายเป็นไวรัลเพราะ “คุณภาพล้วน ๆ” — จังหวะคอมเมดี้ดี การเล่าเรื่องลงตัว และมุกอ้างอิงวัฒนธรรมที่คมจัด
Vincy Johannar:
งานภาพงดงามมาก และการกำกับช่วยยกระดับประสบการณ์ทั้งเรื่อง การแสดงยอดเยี่ยมสุด ๆ โดย Pond Naravit และ Phuwin Tangsakyuen ถ่ายทอดตัวละครออกมาได้มีชีวิตชีวา ซีรีส์มีส่วนผสมที่ลงตัวของโรแมนซ์ อารมณ์ขัน และพัฒนาการของตัวละคร
เรื่องนี้ยังสำรวจความซับซ้อนของความรัก ความเชื่อใจ และความเปราะบาง ทั้งธีร์และพีชได้เรียนรู้ที่จะรับมือกับความรู้สึกของตัวเองและเผชิญหน้ากับอดีต ซีรีส์ยังเน้นให้เห็นถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ที่ดีและมิตรภาพ
โดยรวมแล้ว “Me and Thee” เป็นซีรีส์ BL ที่อบอุ่นและสนุกสนาน คุ้มค่ากับการรับชมมาก ๆ.
ต่อไปนี้เป็นรีวิวเชิงบวกบางส่วนเกี่ยวกับซีรีส์ “มีสติหน่อยคุณธีร์ (Me and Thee)” สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดู สามารถคลิกลิงก์ด้านล่างเพื่อรับชมต่อได้เลยที่ตอนที่ 5!
